Binance ก่อตั้งโดย Changpeng Zhao ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลทีมี หลากหลายสกุล วันนี้ GoodTipIT จะมาแนะนำการสมัคร Binance แบบใหม่ อย่างละเอียดในแอปมือถือ
ทั้งนี้การจะเปิดบัญชี Binance เพื่อที่จะทำการซื้อขายได้ จึงต้องทำการยืนยันตัวตนให้ผ่าน ซึ่งต้องส่งเอกสารและเซลฟี่ถ่ายรูปส่งอีกด้วย ทำให้เห็นว่าไบแนนซ์มีระบบที่เข้มแข็ง
เมื่อกล่าวในเรื่องของความปลอดภัย Binance มีการป้องกันสิทธิ์สองปัจจัย 2FA และมีโครงสร้างระบบหลายระดับ พร้อมกับการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดเจ็ดวันต่อสัปดาห์
เช่นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทันที หรือข้อมูลเกี่ยวกับคู่การซื้อขายหรือค่าธรรมเนียมผู้ผลิต เป็นต้น
ขั้นแรก วิธีการสมัคร Binance
1. เข้าไปที่หน้าเว็บ ไบแนนซ์ และเลือกลงทะเบียน (Register) เพื่อทำการสร้างบัญชีใช้งาน
- คลิกปุ่ม Register
- เลือกประเทศที่เราอยู่ และกดยืนยัน Comfirm
2. ต่อไปให้เลือกลงทะเบียนด้วยอีเมล
- ใส่อีเมล (Email) และตั้งรหัสผ่าน (Password)
- แตะปุ่มสร้างบัญชี (Create Account)
3. เลื่อนจิ๊กซอว์ให้ตรงกันจนเป็นรูปสมบูรณ์แบบ เพื่อยืนยันว่าคนสมัครเป็นคนจริงๆ ไม่ใช่บอท
4. จากนั้นรอรับรหัสที่จะส่งมาในอีเมลที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อทำการยืนยันอีเมล Email Verification
- กดส่งรหัส Send Code รอรับจากอีเมลมากรอกในช่องนี้ > Submit
- หรือใส่รหัส 6 ตัว ที่ช่อง Email Verification Code
ขั้นตอนแรกในการสมัคร Binance ก็เป็นอันสำเร็จ Welcome to ไบแนนซ์ แต่เรายังไม่สามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลได้ ซึ่งต้องทำการยืนยันตัว Veriy เสียก่อน
ขั้นที่สอง วิธียืนยันตัวตน เปิดบัญชีใช้งาน Binance
ทั้งนี้เราสามารถตรวจสอบการยืนยันตัวตนในหน้าโปรไฟล์ Binance จะเห็นว่า Unverified แสดงว่าเราต้องทำการยืนยันให้สำเร็จ ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้
1. แนะนำให้โหลดแอป Binance มาไว้ในมือถือ ที่มีให้บริการทั้งระบบ Android และ iOS
2. เข้าสู่บัญชีผู้ใช้งาน ล็อกอินด้วยอีเมลและรหัสผ่านที่สมัครไว้ข้างต้น
โดยระบบจะทำการส่ง Code ยืนยันตัวตน 6 ตัวไปที่อีเมลที่ลงทะเบียนไว้ และนำรหัสนั้นมาใส่ในช่องยืนยันอีเมล จากนั้นกดปุ่มยืนยัน (Submit) ตอนนี้เราก็อยู่เข้าล็อกอินในแอป Binance ได้แล้ว
3. กดปุ่ม Verify Now เพื่อทำการยืนยันตัวตน
4. เลือกประเทศที่อยู่ และกด Start Now
5. ข้อมูลส่วนตัวใส่เป็นภาษาอังกฤษ
- ใส่ชื่อ-นามสกุล (ให้ตรงกับบัตรประชาชน ห้ามผิดเพราะจะใส่ชื่อเราได้แค่ครั้งเดียว)
- และวันเดือนปีเกิด
- ใส่ที่อยู่ รหัสไปรษณีย์ จังหวัด
6. ขั้นต่อไปในหน้า Verification Center จะมีเอกสาร 3 ประเภทให้เราเลือก ได้แก่ บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง และใบขับขี่
- เลือกบัตรประจำตัวประชาชนที่ทางราชการออกให้ Government-Issued ID Card
- กดรูปกล่องถ่ายรูป ถ่ายรูปบัตรทั้งด้านหน้า Front และด้านหลัง Back of Document
- ทั้งนี้รูปถ่ายที่ทำการอัปโหลดจะต้องถ่ายให้ชัดเจน ภาพไม่เบลอ ไม่ให้มีเงาสะท้อน
- กดต่อไป Continue
7. ต่อไปเป็นการยืนยันด้วยรูป Selfie ภาพนิ่ง (ถ่ายหน้าตรง ไม่ส่วนแว่น )
- กด Take Sefile
- กดต่อไป Continue
8. ขั้นตอนที่น่าตื่นเต้นที่สุด จะเป็นสแกนใบหน้าเซลฟี่หน้าสดให้เห็นว่าเป็นตัวจริง ว่าตัวจริงตรงกับบัตรประชาชนหรือไม่ แล้วให้เราขยับหน้าตามคำสั่ง
- หน้าเซลฟี่ต้องไม่สวนหมวก ไม่ใส่แว่น ไม่ปรับฟิลเตอร์ และแสงต้องสว่างพอ รับทราบคำแนะนำเสร็จให้ กดเริ่มต้นการยืนยัน Start Verification
- วางหน้าของเราให้ตรงกรอบ ทำตามที่แอปสั่ง เช่น ให้ขยับปากเราก็ขยับตาม หรืออาจจะสั่งให้ขยิบตา เป็นต้น
เมื่อสแกนหน้าผ่านแล้ว ต่อไปเราก็รอการอนุมัติ ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณไม่นาน ถ้าข้อมูลทุกอย่างถูกต้องอาจจะได้รับการอนุมัติเลย
โดยเราสามารถตรวจสอบว่าผ่านแล้วหรือยังได้ที่หน้าโปรไฟล์ของเรา จะเห็น Verified เป็นตัวสีเขียว ซึ่งแปลว่าเรา ✓ ตรวจสอบผ่านแล้ว
เมื่อทำการยืนยันตัวตนถึงขั้นนี้จะสามารถฝาก-ถอนได้สูงสุดถึง 50,000 USD ต่อวัน หรือ 500,000 USD ต่อเดือน เลยทีเดียว
Fee ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมการซื้อขายนั้นต่ำกว่าที่อื่น โดย Binance เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการถอนเท่านั้น ไม่ใช่การฝาก ตัวอย่าง เราถอน Ethereum ก็จะถูกเรียกเก็บเงิน 0.01 ETH และถ้าเราถอน Ripple จะถูกเรียกเก็บเงิน 0.25 XRP
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย Binance ถูกจำกัดไว้ที่ 0.1% ของการซื้อหรือขายแต่ละครั้งที่ผู้ใช้ทำ ค่าธรรมเนียมนี้จะลดลง 50% หากผู้ค้าใช้ Binance Coin เพื่อชำระ นั่นคือค่าธรรมเนียมสุดท้ายเพียง 0.05%
แอปไบแนนซ์
Binance ให้บริการบนหลายแพลตฟอร์ม รวมถึง iOS และ Android (ในรูปแบบของแอปพลิเคชันมือถือ) เว็บไซต์บนเบราว์เซอร์ ถ้าใช้ในแอปมือถือเราก็สามารถเลือกรูปแบบไบแนนซ์ได้
สำหรับมือใหม่หลังจากดาวน์โหลดแอป Binance มาแล้ว เราสามารถเลือกได้ว่าจะใช้แอปเวอร์ชั่น Pro หรือแบบ Lite โดยทำการสวิทเปลี่ยนได้ที่หน้าโปรไฟล์แอปผู้ใช้งาน
จะเห็นได้ว่าเวอร์ชั่น Lite เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการความซับซ้อน ดูง่ายๆ กระชับและสะดวก เฉพาะฟังก์ชันพื้นฐานที่ Lite มีให้ก็เพียงพอ อาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้ Professional
ข้อดี
- มีหลายร้อยคู่และคู่สกุลเงินดิจิตอลให้เลือก
- มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำที่สุด 0.1% สำหรับการซื้อขายแบบ spot และ 0.5% สำหรับค่าธรรมเนียมการซื้อหรือขายทันที
- คุณสมบัติการสร้างแผนภูมิและการซื้อขายที่เหมาะกับการวิเคราะห์กราฟ
- ทรัพย์สินของลูกค้าได้รับการประกันในกรณีที่มีการละเมิดความปลอดภัย ยกเว้นการละเมิดที่คุณเป็นฝ่ายผิด
ข้อเสีย
- ธุรกรรมบัตรเดบิตเพิ่ม 4.5% ในต้นทุนการซื้อขาย
- รูปแบบแพลตฟอร์มค่อนข้างดูยากและมีความซับซ้อนสำหรับมือใหม่
- แพลตฟอร์มไม่รองรับวิธีการชำระเงินแบบเก่า
- ขณะนี้ Binance ไม่ได้ให้บริการในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สิงคืโปร และจีน อันเนื่องจากขาดข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ
หากคุณเป็นผู้ใช้ขั้นสูงที่ต้องการการอัปเดตอย่างรวดเร็ว โดยมีความล่าช้าน้อยที่สุด ขอแนะนำให้ใช้แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือเวอร์ชันเดสก์ท็อป เนื่องจากประสบการณ์บนเบราว์เซอร์อาจทำให้เกิดความล่าช้าเมื่อการแลกเปลี่ยนประสบกับปริมาณธุรกรรมที่สูงมาก
คำเตือนด้านความเสี่ยง: การซื้อขายนี้มีความเสี่ยงด้านตลาดสูง โปรดระมัดระวังมีสติและศึกษาตลาดให้ดีเสียก่อน ซึ่งจะไม่มีใครรับผิดชอบการขาดทุนของคุณได้
บทความน่าสนใจ