ตอนนี้หลายคนกำลังเฝ้ารอการปล่อยตัวของ iPhone 12 รุ่นใหม่ ที่มีข่าวว่าจะเปิดตัววันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะมีโรคเลื่อนหรือไหม ระหว่างที่รอก็มีข้อมูลออกเรื่อยๆ ดังนั้นเราจะมาสรุปเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ iPhone 12 รุ่นใหม่
สรุปข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติและรายละเอียด รุ่นใหม่ที่จะออกทั้ง 4 รุ่น แต่ขนาดหน้าจอมี 3 ขนาด
- iPhone 12 ผลจอแสดง 5.4 นิ้ว
- iPhone 12 Max ผลจอแสดง 6.1 นิ้ว
- iPhone 12 Pro ผลจอแสดง 6.1 นิ้ว
- iPhone 12 Pro Max ผลจอแสดง 6.7 นิ้ว
สรุป 12 ข้อน่ารู้เกี่ยวกับ iPhone 12
1. iPhone 12 จะเป็น 5G (มั้ย?)
ข่าวที่มาแรงมากว่า Apple จะเปิดใช้คลื่นสัญญาณ 5G ในโทรศัพท์ iPhone 12 เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ไอโฟน 12ก็ยังจะใช้ได้ทั้งแบบ Sub-6GHz และ mmWave และ 5G รองรับในทุกรุ่น
คลื่นสัญญาณ 5G จะทำให้ดูหนัง เล่นเกมออนไลน์ ด้วยภาพที่คมชัดและรวดเร็ว ไม่มีการสะดุด รวมทั้งใช้งานมือถือทั่วได้เร็วขึ้นถึง 10-100 เท่า เลยทีเดียว
2. รูปโฉม iPhone 12
หน้าตาของไอโฟน 12 จะคล้ายกับ iPhone 4 !? ซึ่งจะมีกรอบ “สแตนเลสสตีล” ขอบสี่เหลี่ยมระหว่างกระจกสองชั้น และขอบกระจกโค้งรอบๆ จอแสดงผลเช่นเดียวกับ iPhone 11 (แบบเดิมใช้กรอบสแตนเลส) และจะยังคงใช้กระจกด้านหน้าและด้านหลังสำหรับตัวเครื่อง
3. จะมีสีใหม่อะไรบ้าง?
iPhone 12 Pro รุ่นใหม่จะมาในสีน้ำเงินกรมท่า (น้ำเงินเข้ม) แบบใหม่ ซึ่งจะมาแทนที่สีเขียว(Midnight Green ) ใน iPhone 11 Pro ซึ่งสีน้ำเงินน่าจะเป็นเฉดเดียวกับ Apple Watch Series 6
แล้วยังมีการคาดการณ์อีกว่า สีชมพู Rose Gold และสีเขียวเข้มอาจจะกลับมากอีกในไอโฟน 12 มั้ย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะจริงไหม รอลุ้นกันต่อไป
4. ขนาดหน้าจอเป็นอย่างไร?
หน้าจอ iPhone 12 มีแนวโน้มจะมี 4 แบบ ซึ่งจะแตกต่างกันมากกับ iPhone 11 โดยหน้าจอ iPhone 12 จะมีขนาด 5.4 นิ้ว สำหรับรุ่น iPhone 12 Max และ Pro มีขนาด 6.1 นิ้ว ส่วนรุ่น Pro Max มีขนาดใหญ่สุด 6.7 นิ้ว
5. จอ iPhone 12 เป็นอย่างไร
มีรายงานออกมาว่า เพิ่มเครื่องสแกน LiDAR ที่ใช้ใน iPad Pro 2020 จะมีในไอโฟน 12 (แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะอยู่ในรุ่นไหน) หน้าจอประสิทธิภาพระดับโปร ระบบเสียงระดับโปร จอภาพ Liquid Retina รองรับ Refresh Rate 120Hz ซึ่งจะทำให้ชัดกว่าเดิม เล่นเกม ดูหนังภาพก็จะสมูทเนียนไม่ลายตา
อย่างที่พอจะรู้กันว่าระบบ สแกน LiDAR นั้นยอดเยี่ยมมาก ซึ่งเป็นตัวประมวลผลภาพ 3 มิติได้อย่างแม่นยำ วัดพื้นผิวและรูปทรง ระยะห่างของวัตถุ และมีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว
ตัวอย่าง เลนส์กล้อง iPhone 12 Image
credit: Phone Arena
6. กล้องมีระบบกันสั่น
การพัฒนาเรื่องกล้องถ่ายภาพจะมีตัวเซ็นเซอร์ “Sensor-Shift Image Stabilization” ที่สามารถทำงานได้กับทุกเลนส์ (มีตั้ง 3 เลนส์) ซึ่งของเดิมใน iPhone 11 จะเป็นระบบกันสั่นแบบออปติคอล (Optical Image Stabilization)
7. เลนส์
- กล้องถ่ายรูป ไอโฟน 12 และ 12 Max มี 2 กล้องได้แก่ เลนส์ไวด์ และอัลต้าไวด์
- ไอโฟน 12 Pro และ 12 Pro Max มี 3 ได้แก่ ไวด์ อัลต้าไวด์ และเทเลโฟโต้
- ความพิเศษของเลนส์ Telephoto สามารถซูม Optical ได้ 3 เท่า
8. แบตเตอรี่
โดย Forbes ได้เผยว่า iPhone ที่จะมาในปี 2020 มีรายงานรุ่นแบตเตอรี่ใหม่นี้ออกมาแล้ว เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับรุ่นเก่าก็พบว่ามีความจุแบตเตอรี่น้อยกว่า iPhone 11 นั้นเพราะการทำงานที่ต้องรองรับ 5G ที่ต้องใช้พลังงานมากขึ้น และการทำงานของ Refresh Rate 120Hz
9. หน้าจอแบบ OLED
ไอโฟน 12 จะเปลี่ยนจากหน้าจอ LED เป็น OLED ซึ่งจะเป็นหน้าจอ Backlight ที่สมบูรณ์แบบ ที่จะมีความคมชัด, สีสด และมีหน้าจอความบางกว่า LED แล้วจะนำมาใส่กับ iPhone 12 ทุกรุ่น
10. ความจุ
ไอโฟน 12 เริ่มต้นความจุที่ 128GB / 256GB / 512GB
ที่มา FRONT PAGE TECH
11. iPhone 12 ราคาเท่าไหร่?
- ราคาเริ่มต้นที่ $649 แปลงเป็นเงินไทย 20,482.44 บาท
- ในระดับไฮเอนด์ แพงสุดที่ $1,099 แปลงเป็นเงินไทย 34,698.18 บาท
ที่มา @jon_prosser
12. สิ่งที่จะไม่แถมว่าด้วย
Apple อาจจะไม่มีอุปกรณ์เสริมอย่างที่ชาร์จ (อะแดปเตอร์แปลงไฟ) และหูฟังไว้ในกล่องพร้อมกับ iPhone 12 เพราะบริษัทไม่ต้องการทำให้ราคาขายไม่สูงเกินไป และเป็นการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะมีราคาใกล้เคียงกับ iPhone 11 ทั้งนี้ยังเป็นการดันยอดขาย AirPods อีกด้วย (Apple ฉลาดมากๆ)
ทั้ง 12 ข้อที่กล่าวมานี้ เป็นข่าวลือ ข่าวจริงผสมกันจากสำนักข่าวหลายที่จากทางอเมริกา ดังนั้น เราก็รอดูว่าหลังการเปิดตัวไอโฟน 12 จริงๆ นั้นจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เราบ้าง