วันนี้เราจะมาดู หนังสงครามย้อนยุค การต่อสู้สุดมันส์ ด้วยวิถีนักรับสมัยก่อน หนังนักรบ ที่มีทั้งการต่อสู้แนวโบราณของทั้งฝั่งเอเชียและฝั่งตะวันตก ทั้งนี้ หนังโรมัน เกี่ยวกับการต่อสู้แบบทั้งกองทัพ และแบบเดี่ยว ซึ่งการต่อสู่ชาวโรมันถูกสร้างเป็นหนังหลายเรื่อง
สุดยอดหนังดัง 12 หนังแอ๊กชั่นสงคราม
หนังที่คัดมาในครั้งนี้เป็นผลงานที่สุดอลังการและเป็นงานคุณภาพทั้งผู้กำกับ นักแสดงและฉาก ที่สำคัญหนังที่คัดสรรมานี้หลายเรื่องผลงานทรงคุณค่าระดับประเทศ ที่บอกว่าสุดยอดมากๆ หนังขึ้นหิ้งในดวงของใครหลายๆ คน ถ้ามีโอกาสต้องดูให้ได้กับหนังสงครามเก่าๆ อันทรงคุณค่าที่แฝงวิถีการต่อสู้ การรบแบบดั้งเดิม
1. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
หนังที่เกี่ยวกับการศึกษาสงครามที่ยิ่งใหญ่อลังการ เราก็นึกถึงเรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งมีทั้งหมด 6 ภาค (พ.ศ.2550, 2554, 2557 และ 2558) โดยเป็นหนังอิงประวัติศาสตร์และประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และหนังเรื่องนี้เป็นภาคต่อจากเรื่อง สุริโยไท
หนังเรื่องนี้น่าดูและน่าติดตามทุกภาคไม่ใช่แค่ความอลังการแต่เป็นเนื้อเรื้องที่มีความเข้มข้น ดราม่า และความตลกฮาๆ ทำให้สนุกมากยิ่งขึ้น การได้ดูหนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เพราะเป็นคนไทย แต่เป็นหนังดีที่ไม่ใช่จะใครจะสร้างและทำหนังแบบนี้ได้บ่อยๆ
โดยหนังเรื่องนี้กล่าวว่าเป็นการนำประสบการณ์ถ่ายทำจาก “สุริโยไท” มาพัฒนาและปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมมีความดราม่า โรแมน และบทความเข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งการต่อสู้ไม่ว่าจะฟันดาบ การต่อสู้บนหลังม้า และขี่ม้า
” หนังโรมัน เรื่องแรกที่ดูแสนจะประทับไม่ลืมก็เรื่องนี้เลย”
2. Gladiator
ถ้าพูดเรื่องหนังต่อสู้และแอ็คชั่นที่เป็นที่จดจำของหลายคน จนเป็นตำนานวงการหนังฮอลลีวูด ซึ่งเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ดราม่าเข้มข้น เนื้อเรื่องสนุก และการแสดงของดาราเฉือดเฉือนกันสุดๆ
หนัง Gladiator เป็นการต่อสู้แสดงถึงพละกำลัง และสติปัญญา ชิงไหวชิงพริบในการต่อสู้ หนังได้ชู ความกล้าหาญและเป็นที่รักของผู้คน ทำให้หนังเรื่องที่สนุกกับการต่อสู้และดราม่า เข้มข้น ทำให้หนังแกรนดิเอเตอร์กลายเป็นหนังดี มาสเตอร์พีซ
3. Braveheart
Braveheart (1995) มีชื่อภาษาไทยว่า วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ ซึ่งเป็นหนังแนวชีวประวัติและอิงประวัติศาสตร์ ของวิลเลียม วอลเลซ ผู้ปลุกระดมชาวสกอตแลนด์ให้ปลดตนเองออกจากการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ
เบรฟฮาร์ท วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ ถือว่าเป็นหนังดีมากๆ อีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และสงคราม อารมณ์ของหนังมีทั้ง ตลกนิดๆ โรแมนติก ดราม่า หักเหลี่ยม และหนังแอ็คชั่นสงครามโบราณ ถือว่าสนุกๆมาก
4. Apocalypto
Apocalypto มีชื่อภาษาไทยว่า “ปิดตำนานอารยชน” ซี่งหนังเล่าเรื่องของอารยธรรมมายาเผ่าหนึ่งที่อยู่กันอย่างความสงบสุข แต่แล้วถูกโจมตีจากเผ่านักรบ เพื่อหาทาสและเครื่องบูชายันต์ ด้วยการล่าเอาคนจากเผ่าอื่นนั้น
บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่คิดเลยว่าจะสนุกมากขนาดนี่ ดูภาพโปสเตอร์ไม่ใช่แนวหนังที่ชื่นชอบ แต่เมื่อได้มีโอกาสดูรู้สึกจะเสียดายมากถ้าใครไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ (แอดมินดูมากกว่า 2 รอบแล้ว ไม่เบื่อเลย) โดยหนังจะให้เห็นการต่อสู้เอาตัวรอดแบบคนป่าหรือชนเผ่าโบราณที่ใช้ธรรมชาติเป็นอาวุธ เป็นแอ็คชั่นที่ใช้สมองและกึ๋น
แล้วถ้าใครสนใจประวัติศาสตร์เผ่าอารยชนโบราณ หนังเรื่องนี้จะทำให้เห็นวิถีของชาวมายา (ตัวร้ายของเรื่อง) และชนพื้นเมืองที่ถูกมองว่าด้อยอารยธรรม หนังได้แสดงวิถีชีวิตสมัยโบราณได้อย่างชัดเจน ให้เราได้เห็นความยิ่งใหญ่ของชนเผ่าอารยัน
5. 300
ความยาวหนัง: 1 ชม. 57 นาที
ออกฉาย: 9 มีนาคม 2550 (สหรัฐอเมริกา)
หนังเรื่อง 300 มีชื่อภาษาไทยว่า “ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก” ซึ่งเป็นหนังแอ็คชั่นแฟนตาซีที่มีการต่อสู้ดุเดือดเลือดสาด ทั้งป่าเถื่อนและดุดัน โดยมีทั้งหมด 2 ภาค
จุดเด่นของหนัง 300 ในภาคแรก คือ วีรบุรุษนักรบและการเสียสละของนักรบสปาร์ตัน ซึ่งเป็นนักรบที่น่ากลัวและแกร่งที่สุดแห่งยุค แล้วเราจะได้เห็นการทำสงครามแบบการต่อสู้ประชิดตัวดาบต่อดาบ
หนัง 300 ได้เค้าโครงเรื่องสงครามใหญ่ของกรีก-เปอร์เซีย เกี่ยวกับตำนานนักรบชาวสปาร์ตา 300 คน ที่ซึ่งออกไปรบกับชาวเปอร์เซีย โดยหนังได้ทำแนวแฟนซี่ ด้วยภาพและฉากกราฟิกเสมืองจริงที่มีความสวยงามคล้ายภาพการ์ตูนทำให้ผลงานที่ออกมาเป็นงานอาร์ตคลาสิก
6. ทรอย (2004) 7.2
ความยาวหนัง: 2 ชม. 43 นาที
ออกฉาย: วันที่ 14 พฤษภาคม 2547 (สหรัฐอเมริกา)
หนังเรื่อง Troy: ทรอย ซึ่งเป็นหนังดราม่าสงครามแนวประวัติศาสตร์ โดยเล่าเรื่องสงครามกรุงทรอย เรื่องนี้มีนักแสดงนำ Brad Pitt ที่เป็นจุดขายทั้งหล่อและเซ็กซี่มาก และมีนักแสดงแนวหน้าที่แสดงได้เฉือดอารมณ์สุดๆ
สงครามกรุงทรอยเป็นเรื่องเล่าขานกับตำนานม้าไม้ซึ่งเป็นกลศึกที่ทำให้กรุงทรอยล้มสลาย ถูกสร้างเป็นหนังใหญ่ให้เรารับชมกัน เราจะได้เห็นความอลังกาทั้งคน ฉาก และสงคราม โดยเฉพาะม้าไม้ตัวใหญ่ให้สมกับจิตนการไว้อย่างมาก
7. War Horse (2011)
ความยาวหนัง: 2 ชม. 26 นาที
ออกฉาย: วันที่ 25 ธันวาคม 2554 (สหรัฐอเมริกา)
หนัง War Horse ชื่อภาษาไทยว่า “ม้าศึกจารึกโลก” ผลงานของผู้กำกับ Steven Spielberg หนังดีสะเทือนอารมณ์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษและยุโรป และเป็นมิตรภาพของชายหนุ่มที่ชื่อว่า”อัลเบิร์ต” และม้าตัวหนึ่งมีชื่อว่า “โจอี้”
เรื่อง War horse เป็นอีกเรื่องที่สนุกมาก ซึ่งมีภาพและฉากสวย และเนื้อหาดราม่าตรึงใจ ด้วยแนวหนังสไตล์ของ Steven Spielberg ก็เน้นความอลังการดูแล้วคุ้มค่ามาก แค่เห็นชื่อใครเป็นผู้กำกับแล้วแนะนำต้องดูให้ได้
ถ้าใครที่ดูแล้วก็บอกเป็นเสียงเดียวกันมากว่า เป็นหนังดีมากกก ทั้งการถ่ายทำ สถานที่ และบทที่เข้มข้น รวมทั้งหมดม้าตัวเอกที่แสนรู้มาก หนังสงครามที่ทำให้เราเสียน้ำตาแต่ไม่เสียใจที่ได้ดู
8. The Last Samurai (2003)
ความยาวหนัง: 2 ชม. 34 นาที
ออกฉาย: วันที่ 5 ธันวาคม 2546 (สหรัฐอเมริกา)
หนัง The Last Samurai มีชื่อภาษาไทยว่า “มหาบุรุษซามูไร” เป็นหนังสงครามแนวแอคชั่นต่อสู่แบบซามูไร และเข้มข้นดราม่าของเหล่าซามูไรกลุ่มสุดท้ายของประเทศญี่ปุ่น
เพื่อความบันเทิงที่จะได้เห็นว่าเหล่าซามูไรนั้นเป็นกลุ่มที่ต้องการรักษารากเหง้าของวัฒนธรรมและวิถีแบบญี่ปุ่น ยอมตายดีกว่ายอมให้ละทิ้งเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งซามูไร (ทั้งนี้หนังเรื่องนี้เป็นยุคเดียวกับเรื่องซามูไรพเนจร มือพิฆาตบัตโตไซอีกด้วย)
โดยหนังเรื่องนี้สร้างจากฝั่งฮอลีวู๊ดที่ทำออกมาได้ดีมากครบความเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างดีเยี่ยม และไม่แฟนตาซีหรือโอเว่อร์สไตล์อเมริกัน
9. The Patriot
ความยาวหนัง: 2 ชม. 45 นาที
ออกฉาย: วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2543 (สหรัฐอเมริกา)
The Patriot มีชื่อภาษาไทยว่า “ชาติบุรุษ ดับแค้นฝังแผ่นดิน” เป็นหนังสงครามแอ็คชั่นสุดมันส์ ที่อิงประวัติศาสตร์ช่วงสงครามปฏิวัติอเมริกัน โดยหนังได้เติมแต่งเนื้อหาให้มีความดราม่าและการต่อสู้ที่ดุเดือด
หนังเรื่องนี้มีความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง ที่สนุกมากๆ ไม่น่าเบื่อสักนาที เพราะมีครบทุกรส แค่เปิดเรื่องก็ทำให้คนดูมีอารมณ์สะเทือนใจตั้งแต่ตั้งเรื่อง สำหรับคนที่อ่อนไหวก็น้ำตาไหลได้เลย แล้วหนังก็พาเรามันส์เลือดสาด และตื่นเต้นเร้าใจกับสถานการณ์ที่กดดันละคร โดยนักแสดงมากความสามารถและแต่ละครแสดงได้ดีมากๆ
บอกได้เลยว่าเรื่องสนุกมากจริงๆ ทั้งความสามารถของพระเอกที่เป็นทหารเก่าทั้งโหดเหี้ยมและเก่งกาจ กับลูกชายคนโตที่อยากเป็นทหารผู้ไม่เคยได้รู้หรือสัมผัสการนองเลือดจริงๆ เป็นอย่างไร พวกเขาจะพาเราไปดูเส้นทางประกาศอิสรภาพของชาวอเมริกัน
10. Alexander (2004)
ความยาวหนัง: 2 ชม. 55 นาที
ออกฉาย: วันที่ 24 พฤศจิกายน 2547 (สหรัฐอเมริกา)
หนัง อเล็กซานเดอร์ (Alexander) มีชื่อภาษาไทยว่า “มหาราชชาตินักรบ” เป็นเรื่องราวเกี่ยวเส้นทางสร้างอำนาจกองทัพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ กษัตริย์แห่งมาซีโดเนีย ที่ออกศึกไปตีเมืองต่างๆ ซึ่งไปไกลถึงอินเดียเลยทีเดียว
11. The 13th warrior
ความยาวหนัง: 1 ชม. 42 นาที
ออกฉาย: วันที่ 27 สิงหาคม 2542 (สหรัฐอเมริกา)
หนัง The 13th warrior มีชื่อภาษาทไทยว่า “พลิกตำนานสงครามมรณ” เป็นหนังที่ดัดแปลงจากนิยาย โดยหนังเล่าเรื่องราวของพระเอกผู้เป็นนวีและนักการทูต แต่ต้องไปช่วยชาวไวกิ้งออกรบสู้กับปีศาจในตำนาน
สำหรับหนังเรื่องนี้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนังเจ๊งตลอดกาล คนดูและนักวิจารณ์ทางฝั่งอเมริกาไม่ชอบกันอย่างมาก แต่สำหรับคนไทยแล้วก็มีทั้งคนชอบและไม่ชอบเช่นกัน ซึ่งฝั่งที่ชอบหนังหนังออกแนวต่อสู้แอ๊คชั่น และมีความสยองขวัญ แล้วฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดน่ากลัว
ถ้าใครที่ไม่คิดอะไรมาก หนังนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ เรื่องจริงหรือเป็นอัตชีวประวัติของใคร แต่ก็ดูสนุก ตื่นเต้นกับการผจญภัย ต่อสู้เห็นการต่อสู้แบบไวกิ้ง และพระเอกผู้ซึ่งเป็นมุสลิมที่มีความศรัทธาต่อพระอัลลอฮ์ ทั้ง 13 คนได้ออกสู้แบบวิถีดั้งเดิม
12. Red Cliff (2008)
ความยาวหนัง: ภาค 1 และ 2 = 2ชั่วโมง
ออกฉาย: ภาค 1 =10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 และภาค 2= 22 มกราคม พ.ศ. 2552
Red Cliff มีชื่อภาษาไทยว่า สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ ซึ่งเป็นหนังที่สร้างจากวรรณจีนเรื่อง สามก๊ก ตอนศึกผาแดงหรือ โจโฉ แตกทัพเรือ หนังที่จีนใช้ทุนสร้างกว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขนกองทัพนักแสดงชั้นนำของจีนมากประชนฝีมือกันอย่างเต็มที่
ด้วยเนื้อเรื่องที่มีความละเอียดและต้องปูพื้นความเป็นมากันสักเล็กน้อย ทำให้มีถึง 2 ภาค ถ้าคนที่รู้จักวรรณกรรม สามก๊ก ก็พอจะรู้กันดีว่ามีเนื้อหาความยาวมากๆ การที่จะทำออกมาเป็นหนังได้ถือว่าเป็นเรื่องยาก แต่หนังเรื่องนี้สามารถถ่ายให้เราได้เข้าใจและรู้เรื่องได้อยากไม่ตกหล่น แบบที่ไม่เคยรู้จักสามก๊กก็ดูหนังรู้เรื่อง
สำหรับเนื้อหา หนังสงครามย้อนยุค สามก๊ก ก็เป็นแนวการรบที่ใช้กลยุทธ์ที่ฉลาด หนังนักรบ แบบจีน แสดงได้ถึงความเฉลียวฉลาดของคนจีนสมัยโบราณ และมีฉากสงครามยิ่งใหญ่ ตระการตา ซึ่งทำให้ดูสมจริงและน่าตื่นเต้น พร้อมกับความดราม่าชวนน่าติดตามอย่างยิ่ง ขอบอกว่าใครที่เป็นแฟนหนังจีน รับรองชอบแน่ๆ
