หนังรักซาบซึ้งที่เราจะอิ่มเอมใจ เมื่อได้ดูหนังเรื่องจบแบบมีความสุข Happy Ending เพื่อหนีจากหนังที่ทำร้ายตัวเองเศร้าไป 3 วัน ดังนั้นเราจึงแนะนำ หนังรัก Netflix ที่ขอบอกว่าตอนจบไม่มีทำร้ายใจคนดูแน่ๆ
มีหลายครั้งที่เราเลือกดูหนังจากปก ที่ดูแล้วน่าจะเป็นหนังรัก Romanctic แต่ตอนจบกลับเป็นโดนกระชากหัวใจ บางเรื่องที่ความเจ็บนั้นค้างอยู่ 3 วันเลยทีเดียว ดังนั้น แอดมินจะไม่ทำร้ายคนอ่าน เพราะเราจะไปดูหนังรัก 10 เรื่อง ที่จะสร้างความสุขกันค่ะ
รวบรวม 10 หนังรัก Netflix ขอดูจบแบบ Happy Ending
อัปเดตหนังเก่า สุดประทับใจ ใน Netflix
1. The Notebook (2004) “รักเธอหมดใจ ขีดไว้ให้โลกจารึก”
ผู้กำกับ: Nick Cassavetes
นักแสดง: Ryan Gosling Rachel McAdams
ระยะเวลาหนัง: 124 นาที
จะมีความรักไหน ที่มั่นคงและมอบทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อนเธอคนเดียวได้ขนาดนี้
หนังรักโรแมนส์ติก ที่ถ้าใครได้ดูขอบอกว่ามันจะอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไป การดำเนินเรื่องเกี่ยวกับชีวิตรักของชายหนุ่ม “โนอา” (ไรอัน กอสลิ่ง) และหญิงสาว “แอลลี่” (ราเชล แม็คอดัมส์) และเริ่มต้นหนังได้ให้เรามีความสุขใจไปกับความรักแบบวัยรุ่นพวกเขาอย่างเต็มที่
(รักแบบวัยรุ่น Summer love จะยืดยาวเป็นรักแท้ได้จริงหรอ?)
จากนั้นหนังก็กดดันเรา ให้เห็นกับอุปสรรคพี่พวกเขาต้องพบ ช่วงนี้แหละลุ้นกันน่าดูเลย ซึ่งเราจะได้เห็นความทุ่มเทของพระเอกที่มีต่อนางมากๆ จุดนี้ได้กลายเป็นจุดพีคของเรื่องเลยทีเดียว
แนะนำว่าห้ามพลาดกับหนังเรื่องนี้ที่มีภาพสวยมาก เพลงก็เพราะ นางเอกสวย พระเอกหล่อ(เท่มากๆ) เราจะได้ซาบซึ้งน้ำตาไหล แล้วตอนจบเศร้าแต่ไม่ทรมานใจคนดูแน่นอน
2. Labor Day (2013) “เส้นทางรักบรรจบ”
ผู้กำกับ: Jason Reitman
นักแสดง:Kate Winslet, Josh Brolin, Gattlin Griffith
ระยะเวลาหนัง: 111 นาที
เส้นทางรักบรรจบ (2013) เป็นหนังรักดราม่าที่ตอนแรกแอดมินเกือบนึกว่านี้เป็นหนังฆาตกรรมหรือเปล่า เพราะเอกหน้าตาดุมาก “แฟรงค์” (Josh Brolin) ซึ่งเขาเป็นนักโทษแหกคุกออกมา และได้มาหลบที่บ้านของนางเอก “อเดล” (Kate Winslet)
ช่วงนี้ได้เกิดความผูกพันธ์ระหว่างทั้งสองคน รวมทั้งเฮนรี่ ลูกชายของอเดล การมาของแฟรงค์ได้เติมเต็มให้ 2 แม่ลูก นางเอกเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว บ้านนี้เลยขาดพ่อ ซึ่งพอได้ดูไปเรื่อยๆ รู้เลยว่า แฟรงค์ เป็นผู้ชายที่อบอุ่นมากๆ และก็น่าสงสารสุดๆ ว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นนักโทษ
แล้วยังมีปมของนางเอกที่มีอาการเป็นโรคซึมเศร้า การดำเนินเรื่องไม่เร่งรีบแต่ก็ไม่ช้าอืดอาด แล้วเราจะได้เห็นพัฒนาการการเติมโตทางความคิดของตัวละครในเรื่องได้อย่างสวยงาม
ใครที่เห็นปกหนังแล้วอาจจะไม่สนใจ เพราะคู่พระนางรุ่นใหญ่ไม่โดนใจวัยรุ่น แต่ทั้งคู่เป็นตัวพ่อตัวแม่แห่งวงการ Hollywood เพราะพระเอก คือ จอช โบรลิน ที่เคยแสดงเป็น ทานอส (ตัวม่วง) และนางเอกก็คือ เคท วินสเล็ต นางเอกเรื่องไททานิก นั้นเอง
แนะนำอยากให้ดูหนังเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง หนังดีมากๆ ตอนจบขอบอกว่า Happy Ending แล้วไปลุ้นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีการหักมุมได้อย่างพอดี ไม่เวอร์จนน่าเกลียด
3. Meet Joe Black (1998) “อลังการรักข้ามโลก”
ผู้กำกับ: Martin Brest
นักแสดง: Brad Pitt, Anthony Hopkins, Claire Forlani
ระยะเวลาหนัง: 181 นาที
“อลังการรักข้ามโลก” ที่สุดหนังรักสุดแสนโรแมนติก เมื่อท่านยมทูตมาพักร้อนที่โลกมนุษย์ อยากหาประสบการณ์เป็นมนุษย์สักครั้ง หนังเรื่องนี้ดูแล้วโรแมนติกเรียบๆ เราจะได้เห็นความใสๆ น่ารักของพระเอก Brad Pitt นี้คือจุดขายเลยล่ะ
เรื่องราวเกิดขึ้นว่า ท่านยมทูตใช้ร่างพระเอกที่ตายไปแล้ว มาอาศัยอยู่บนโลก จากนั้นท่านยมทำข้อเสนอกับมหาเศรษฐีคนหนึ่งว่า จะยืดอายุขัยให้ไม่ต้องตาย แต่ต้องมาเป็นไกด์ทัวร์ให้เขา ช่วงนี้พระเอกมาอยู่ด้วยที่บ้านและได้รับการดูแลอย่างดี
แล้วมหาเศรษฐีคนนี้ก็มีลูกสาว (สวยละมุนสุดๆ) จนกระทั่ง พระเอกมาเจอกะนางเอกนี้แหละ ปัญหาเกิดเลย อย่ายุ่งกับลูกข้า ซึ่งจะได้เห็นการประชันบทบาทระหว่างแบรด พิตต์ และแอนโทนี ฮอปกินส์ (แสดงเป็นมหาเศรษฐี)
ตัวหนังไม่ได้มีดีแค่บทพระเอกหล่อๆ ยังมีเรื่องคมเฉือดคมทางธุรกิจของมหาเศรษฐีที่จะโดนหักหลัง บทจองแอนโทนีที่แก่แต่ยังเก๋าน่ะ แล้วหนังก็ให้ข้อคิดถึงเป้าหมายในการดำเนินชีวิต
รวมทั้งเราจะได้เห็นว่ารักแท้เป็นอย่างไร นางเอกรักใครระหว่างยมทูตหรือผู้ชายที่เป็นมนุษย์จริงๆ โปรดหามาชม (พระเอกหล่อ!)
4. Twilight (2008) “แวมไพร์ ทไวไลท์”
ผู้กำกับ: Catherine Hardwicke
นักแสดง: Kristen Stewart, Robert Pattinson, Billy Bu
ระยะเวลาหนัง: 121 นาที
หนังรักแห่งยุค 2010 ที่ใครไม่รู้จักเชยมากๆ หนังรักโรแมนติกวัยรุ่นระหว่างหญิงผู้เป็นมนุษย์ชอบเก็บตัว และชายผู้เป็นแวมไพร์ท ได้ก่อเกิดความรัก แต่ความแตกต่างนี้จะทำพวกเขาได้อยู่ด้วยกันไหม
หนังทไวไลท์ มีทั้งหมด 5 ภาค และถูกดัดแปลงจากนิยายขายดี ที่ออกแนวความรักวัยรุ่น หนังก็ถูกใจคนชอบแนวแฟนตาซี่ เหนือความจริงระหว่างความรักของมนุษย์และผีดูดเลือด
สำหรับคนชอบหนังเบาๆ ไม่เครียดแล้วจบแบบ Happy Ending ก็เรื่องนี้เลยค่ะ
5. Ghost (1990) “วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก”
ผู้กำกับ: Jerry Zucker
นักแสดง: Patrick Swayze, Demi Moore, Whoopi Goldberg
ระยะเวลาหนัง: 128 นาที
หนังรักในตำนานกับฉากปั้นหม้อสุดเซ็กซี่ และอีโรติกสุดๆ กับฉากเข้าพระนางที่ไม่ได้ติดเรท แต่สวยงามอย่างมาก หนังเรื่องนี้ฉายเมื่อปี 1990 ตอนนี้ก็ 30 ปีมาแล้ว แต่ก็ยังเป็นหนังที่ถูกกล่าวถึงจนตอนนี้
หนังเรื่อง Ghost จึงมีทั้งความสนุกสนาน หัวเราะ และซาบซึ้ง รวมทั้งมีความเป็นตำนานหลายด้านไม่ว่าจะมีเพลง Unchained Melody ฮิตติดหูจนถึงทุกวันนี้ และผมนางเอกทรงทอมบอยก็ฮิตมากในตอนนั้น
โดยเนื้อเรื่องเราก็จะพอรู้กันมาแล้วว่า เกี่ยวกับคู่รักที่ฝ่ายชายเสียชีวิตและไม่ได้ยอมไปเกิดใหม่ เพราะยังรักและเป็นห่วงนางเอกอยู่นั้นเอง ซึ่งหนังจะได้เห็นความพยายามของผีพระเอกที่พยายามจะสื่อสารกับนางเอก ด้วยความช่วยเหลือของ “คนทรงสิบแปดมงกุฎ”
บทคนทรงฮามาก แม้จะกลับมาดูอีกครั้งก็ยังชอบตัวละครนี้
สำหรับบทนางเอกส่งผมให้กับ เดมี่ มัวร์ กลายเป็นขวัญใจของหนุ่ม ในตอนนั้นเธอสวยมากๆ ยิ่งฉากร้องไห้รู้สึกงดงามสุด ส่วนพระเอกแพทริค สเวย์ซี่ ในยุคนั้นก็ฮอตสุดๆ ใครอยากรู้ว่ามันจะตำนานเยอะอะไรอย่าง งี้ โปรดดูและหาคำตอบได้
6. The Notting Hill (1999) “รักบานฉ่ำที่น็อตติ้งฮิลล์”
ผู้กำกับ: Roger Michell
นักแสดง: Hugh Grant, Julia Roberts, Richard McCabe
ระยะเวลาหนัง: 124 นาที
หนังรักเบาๆ โทนของหนังเรียบง่าย การดำเนินเรื่องไม่ฉูดฉาด ตามสไตล์หนังผู้ดีอังกฤษ กับพระเอกที่เป็นหนุ่มขี้อาย สุขภาพใจดี และนางเอกที่เป็นถึงดาราดังฮอลลีวูด ที่แอบไปหลงรักกัน
จะเป็นอย่างไร เมื่อมารักกับซุปเปอร์สตาร์ ระดับ Hollywood?
แน่นอนความแตกต่างนี้แหละที่ให้เรื่องดูวุ่นๆ แล้วจะทำให้พวกเขาลงเอยได้อย่างไร เมื่อทั้ง 2 คน เหมือนกันอยู่คนละโลก เมื่อสื่อต่างๆ ตามทั้งคู่ นางเอกจะเลือกอะไรชื่อเสียง เงินทอง หรือความสุขรักแท้
หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แบบขำกร๊าก หรือลุ้นตัวโกง หรือหักมุมทางโค้ง แต่หนังนั้นมีความสวยงามของมันกับวิถีชีวิตของชุมชน Notting Hill ซึ่งมีจริงๆ ด้วยล่ะ แล้วหนังเรื่องนี้ในปีที่ออกฉาย 1999 ดังเรื่องนี้ดังมากๆ
7. หนัง LA LA Land 2016 “นครดารา”
ผู้กำกับ: Damien Chazelle
นักแสดง: Ryan Gosling, Emma Stone
ระยะเวลาหนัง: 128 นาที
La La Land เป็นหนังเพลง Musical ท็อบฟอร์มประจำปี ที่ได้รับคำวิจารณ์ดีมาก และได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลออสการ์อย่างนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม อีกด้วย
หนังเรื่องนี้เป็นหนังย้อนยุคช่วงปี ’50-60 ในสไตล์โรแมนติกและละครเพลงได้อย่างลงตัวสุด แอบมีดราม่าเล็กน้อย แบบสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่ต้องการทำตามสิ่งที่ตัวเองฝัน อย่างพระเอกที่รักเพลงแจ๊ส และนางเอกที่อยากเป็นดารานักแสดง
พวกเขาจะไปตามฝันได้อย่างไร จะเห็นการเติมโตด้านความคิด และมุมมองของความรักต่อความฝันตัวเอง ผ่านความสัมพันธ?ของทั้งคู่ที่เป็นกำลังใจให้กัน
ส่วนตอนจบแม้ทั้งคู่จะไม่ได้จบแบบลงเอยกัน แต่บอกว่า Happy Ending มากๆ
8. Love, Rosie (2014) “เพื่อนรักกั๊กเป็นแฟน”
ผู้กำกับ:Christian Ditter
นักแสดง:Lily Collins, Sam Claflin, Christian Cooke
ระยะเวลาหนัง: 102 minutes
ความรักสไตล์เพื่อนรัก แต่มีอุปสรรคคลาดแคว้นกันเพราะความที่ต่างฝ่ายไม่ตรงไปตรงมา เลยไม่ได้ลงเอยกันซะทีจนเวลาล่วงเลยไปกันจนเป็นผู้ใหญ่ แล้วทั้งคู่จะจบกันได้อย่างไร
เมื่อต่างฝ่ายไม่สามารถบอกความรู้สึกตัวเองอย่างตรงไปตรงมาได้ เพราะนางเอกพลาดท้อง แบบครั้งเดียวท้องแบบ งงๆ กับคนที่ออกเดทกันแค่ครั้งแรก หนังรักวัยรุ่นดูใสๆ แต่ไม่ใสอย่างที่คิด ซึ่งมันก็ดู Real กับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้กับวัยรุ่นพลาดท้องตอนวัยรุ่น
หนังเรื่องนี้สนุกไม่น้อยมีทั้งฉากฮาๆ ของนางเอก (นางน่ารักมากๆ) ดูแล้วอาจแอบตกใจว่า นางเอกที่ดูใสๆ แต่ก็เปรี้ยวอยู่น่ะเนี้ย
และมีความตลกร้ายของวิถีชีวิตวัยรุ่นและฉากดราม่าเกี่ยวกับทางเลือกของวัยและการทำตามฝัน แล้วบทพระเอกก็แสนดีเหลือเกิน อีกทั้งได้แรงบาดใจจากพ่อของนางเอก ในการดำเนินชีวิตอีกด้วย
9. Always be my maybe (2019) “คู่รัก คู่แคล้ว”
ผู้กำกับ: Nahnatchka Khan
นักแสดง: Ali Wong, Randall Park, James Saito
ระยะเวลาหนัง: 102 นาที
หนังรักโรแมนติกแบบฮาๆ จากค่าย Netflix เรื่อง “คู่รัก คู่แคล้ว” หนังสนุกเบาสมองย่อยเรื่องราวของเพื่อนรักข้างบ้านที่ซี้กันตั้งแต่เด็กจนวัยรุ่น แต่ก็ต้องห่างกันไป พอโตขึ้นต่างฝ่ายก็มาเจอกันอีกครั้ง ก่อเกิดความรักแบบกวนๆ
ตัวเอกเป็นคนเอชียทั้งคู่โดยพระเอกเป็นคนเกาหลีและนางเอกเป็นจีน ซึ่งอยู่ข้างบ้านกัน ในเมืองซาน ฟรานซิสโก เราจะได้เห็นวิธีเล็กน้อยๆ ของชุมชุนเอเชียในอเมริกา
หนังยังได้เซอร์ไพรส์เอา คีนูรีฟ มาเล่นใหญ่เล่นเวอร์อีกด้วย (555+) อีกทั้งเราจะได้เห็นมุกจิกกันของคนเอเชียด้วยกัน ก็แหม่ทั้งพระเอกนางเอกก็ปากร้ายกันทั้งคู่
10. You’ve got mail (1998) เชื่อมใจรักทางอินเตอร์เน็ท
ผู้กำกับ: Nora Ephron
นักแสดง: Tom Hanks, Meg Ryan, Greg Kinnear
ระยะเวลาหนัง: 119 นาที
หนังรักโรแมนติกที่สนุกดูแล้วอารมร์ดีกับเรื่อง “เชื่อมใจรักทางอินเตอร์เน็ท” ที่ตอนนั้นยุคเน็ตกำลังเริ่มเข้ามา เขาเลยหยิบประเด็น แชทกันทางอีเมล (นับว่าเก่ามากๆ 555+)
โดยให้พระเอกและนางเอกอยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน จะรักกันได้อย่างไร? เมื่อนางเอกเป็นเจ้าของร้านขายหนังสือเล็กๆ และพระเอกก็เป็นเจ้าของธุรกิจร้านขายหนังสือครบวงจร ที่จะมาแทนที่ธุรกิจของนางเอก
หนังดีน่าประทับใจดีมากเสน่ห์อินเตอร์เน็ทยุค 90 ไม่ว่าจะฉากที่เรียบง่าย แต่สวยแล้วให้ความรู้สึกที่อบอุ่น แล้วความบังเอิญที่ทั้ง 2 คนได้คุยกันผ่านเมล สร้างความวุ่นๆ ว่าถ้ารู้ว่าจริงแล้วจะลงเอยแบบไหน (Happy Ending แน่นอน)
นักแสดง Tom Hanks และ Meg Ryan ต่างก็เป็นคู่ขวัญที่เล่นหนังมาด้วยกันหลายเรื่อง แนว หนังรักกุ๊กก๊ก ที่ว่าเล่นด้วยกันเมื่อไร ดังทุกเรื่องแล้วเรื่องนี้รับประกันความน่ารัก สนุก และอบอุ่นใจจ้า
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก www.imdb.com
แนะนำบทความที่น่าสนใจ
รวม 5 หนังซีรีส์ Netflix แนวสงคราม (สมัยเก่า) ดราม่า อิงประวัติศาสตร์
5 หนังสงคราวซีรีส์ Netflix
15 หนังผีและหนังสยองขวัญ (Horror) ในหนัง Netflix ปี 2020