ซีรี่ย์สงคราม ย้อนยุค Netflix แนวดราม่า สงคราม ต่อสู้สมัยเก่า หนังอิงประวัติศาสตร์ ที่น่าดูที่สุด คัดมาแล้วว่าเป็นหนังดี และยังเป็น หนังประวัติศาสตร์ Netflix สนุกสุดมันส์ด้วยการต่อสู้ดุเดือน ดราม่าเข้มข้น งานสร้างอลังการ เสหน์อย่างหนึ่งของหนังยุคโบรณาณ ตัวละครผู้ชายจะเป็นหนุ่มหล่อหุ่นล่ำ และบรรดานักแสดงหญิงก็มีความสวยเซ็กซี่ ทำให้หนังน่าดูหน้าติดตามอย่างยิ่ง
ซีรี่ย์สงคราม ย้อนยุค Netflix ที่น่าดู อลังการ และสนุกมาก
1. Rise of Empires: Ottoman (ออตโนมัมผงาด) หนังประวัติศาสตร์
หนังเรื่องนี้สนุกมากๆ การนำเสนอแบบกึ่งสารคดีและตัดกับการดำเนินเรื่องอย่างเข้มข้น ดูไม่น่าเบื่อ ยังทำให้เราอินกับหนังได้มากยิ่งขึ้น โดยจะเล่าเรื่องถึงเหตการณ์ สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 เอาชนะและยึดตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล
ในซีซั่นที่ 1 ความสนุกของ “ซีรี่ย์สงครามย้อนยุค” อยู่ที่การคิดแผนกลยุทธ์ทางสงคราม เช่น การที่จะทำลายกำแพงที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแรงที่สุดในโลก ที่แทบไม่มีช่องโหว่ เพราะอีกด้านของเมืองมีอ่าวป้องกันการโจมตีทางทะเล
ซึ่งเราจะได้นักประดิษฐ์ทางวิศวะ-โยธาที่จะแบบโบราณได่สร้างสิ่งมหัศจรรย์เพื่อที่จะเอาชนะสงคราม แล้วหนังยังให้เห็นการชิงไหวชิงพริบ การทรยศ และช่วงชิงอำนาจ รวมทั้งเรื่องความเชื่อและศาสนา อีกทั้งได้เห็นความทะเยอทะยานเหม็ดที่ 2 ต้องการเป็นซีซาร์องค์ถัดไป
เพื่อการครองยุโรป รวมถึงอยากครองโลก เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการชนะสงครามจนถูกขนานนามว่า “ผู้ที่พิชิตกรุงคอนสแตนติโนเปิล” หรือ “สุลต่านเมห์เหม็ดผู้พิชิต”
หนังเรื่องนี้ยิ่งใหญ่สมจริง ฟอร์มยักษ์จนลืมคิดไปเลยว่านี้เราก็กำลังดูซีรีส์อยู่นะ เมื่อดูจบแล้วอยากไปเที่ยวเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เลยทีเดียว
2. Viking: ไวกิ้ง
ที่เลือกซีรีส์ไวกิ้งนี้ขึ้นมา เพราะกำลังอินกับเรื่องแรก Ottoman อย่างมาก ตอนแรกคิดว่าจะเป็นหนังบ้านป่าเมืองเถื่อน แต่ไม่ใช่เลยเรื่องนี้ทำให้เห็นความเป็นมาและเก่งของชาวไวกิ้ง พอได้ดูไปสัก 2-3 ตอนแรกก็ติดเลยทีเดียว
หนังดีขนาดไหน ไวกิ้งมียาวถึง 1-5 ซีซั่น ไม่ดีจริงจะมีหลายภาคอะไรขนาดนี้ ซึ่งในภาคแรกจะเกริ่นถึงวิถีชีวิตของชาวไวกิ้ง ตั้งแต่การสร้างเรือและการเดินเรือไปได้ไกลถึงเกาะอังกฤษ ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าจะไปได้ไกลขนาดนั้น
เรื่องราวตัวละครหลัก แรกนาร์ ลอธบรอก ที่ทำการรุกรานเกาะอังกฤษ ซึ่งมียุทธวิธีการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใคร ยิ่งภาคหลังจะเห็นสิ่งประดิษฐ์มากมายไม่รู้ว่าขี้โม้! หรือเปล่า เพราะถ้าจริงนี้จะเป็นที่มาของยุทธวิถีการรบที่นำมาใช้ในหลายๆประเทศต่อมา (อยากรู้ว่าอะไรก็ไปดูกันในหนังได้สนุกจริง)
โดยในภาคหลังๆ จะเป็นการออกลุยไปในประเทศต่างๆ ที่ไปบ่อยก็อังกฤษ (ใกล้สุดอะนะ) หนังสร้างได้อย่างอลังการโปรดักชั่นดี ภาพสวย กึ่งสารคดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไวกิ้ง แล้วหนังมีการหักเหลี่ยม เฉือนคม ดุเดือด ล้างแค้น
ขอแถมอีกนิด ในภาคสุดท้ายจะมีกลศึกที่สร้างป้อมปราการอ่าวป้องกันเมืองปารีสจากข้าศึก โดยจะป้องกันการโจมตีทางทะเลจากพวกไวกิ้ง จนกลายเป็นเมืองที่ไม่มีใครตีแตก ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในเรื่อง “ออตโนมัมผงาด”
สุลต่านเมห์เหม็ดพยายามจะตีเมืองนี้ให้ได้ หลังจากความพยายามรุ่นบรรพบุรุษมากว่า 100 ปี ก็ไม่มีใครทำได้
สรุปว่าทำไหมแนะนำ 2 เรื่องนี้ เพราะมีความคล้ายกันเรื่อง เน้นการโจมตี การคิดแผนจูโจม แบบคิดนอกกรอบ และอีกฝ่ายก็วางแผนป้องกันการโจมตี บวกเพิ่มเรื่อการเมืองการปกครองอีกด้วย เชือดเฉือนกันสุดๆ
3. The Last Kingdom
ตอนนี้มีทั้งหมด 4 ภาค ซีรีย์ฝรั่งแนวประวัติศาสตร์ สมัยก่อตั้งประเทศอังกฤษ ในเรื่องยังไม่เป็นประเทศอังกฤษและเป็นช่วงที่ไวกิ้งรุกราน จะว่าไปแล้วก็เวลาไล่เลี่ยกับเวลาใน “ซีรีส์ไวกิ้ง” แต่จะเล่าในแง่การโดนรุกรานและโดนยึด
โดยตัวละครหลักเป็นเรื่องของ อูเทรด เด็กอังกฤษที่ถูกไวกิ้งจับตัวไปเป็นเฉลย ทำให้โตมาแบบไวกิ้ง จนในที่สุดเข้าปกป้อง เวสเซก เมืองสุดท้ายในเกาะอังกฤษ และนำไปสู่การก่อตั้งประเทศอังกฤษ
ความสนุกของ The Last Kingdom ฉากสงครามอลังการ มันส์กับกลยุทธศึกต่างๆ ตื่นเต้นกับแอคชั่นสงคราม และแอบมีฉากเรทอาร์ด้วย แล้วตัวละครก็มีจริงในประวัติศาสตร์ และการแสดงที่นำเสนออย่างมีมิติ
ถ้าใครเคยดูเรื่องไวกิ้งแล้วมาดูเรื่องนี้ไม่ต้องกังวลเรื่อง ตัวละครจะกระโดดหรือสับสน เพราะเรารู้สึกได้ว่านี้คือภาคต่ออีกจักรวาลของเรื่องไวกิ้ง
4. Knightfall: ไนท์ฟอลล์ อัศวินสงครามเลือด
ซีรีส์ที่เล่าเรื่องของกลุ่มอัศวินเทมพลาร์ (Knights Templar) ในศตวรรษที่ 14 ช่วงกำลังล่มสลายของกลุ่มอัศวิน ที่ซึ่งเป็นกองทหารแห่งศาสนาคริสต์ โดยประเด็นการตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ และกล่าวกลุ่มอัศวินที่ที่แข็งแกร่ง
ที่สุดในขณะนั้น ต้องถูกกวาดล้างและล่มสลาย ซึ่งสาเหตุก็ไม่พ้นการเมือง และปมขัดแย้งระหว่างพระเจ้าฟิลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศส (อยากรู้รายละเอียดต้องตามไปดู) หนังยังฉากแอกชั่นไม่ต้องพูดถึงดุเดือด สมจริงและเข้มข้น
ซีรีส์ Knightfall ได้บอกว่าตัวละครมีมีพื้นจากบุคคลจริงทางประวัติศาสตร์ ซึ่งบางส่วนมีการบันทึกไว้จริง แต่ภายในเนื้อหาซีรีส์นี้เป็นเรื่องสมมติ ดังนั้นเราก็ดูได้เพลินๆ แต่ก็เห็นความเชื่อมโยงอยู่บ้าง จากตอนต้นเรื่อง
เปิดฉากการต่อสู้ระหว่างสุลต่านที่กำลังจู่โจมกำแพงเมืองฝรั่งเศส ถ้าใครที่เคยดูเรื่อง “ออตโนมัมผงาด” ก็จะร้องอ๋อ กันทีเดียวนั้นก็คือฉากที่ “สุลต่านเมห์เหม็ด” ตีเมืองแตกนั้นเอง แล้วจอกศักดิ์สิทธิ์ก็หายไปในตอนนั้น…
15 ปีต่อ นี้ละคือจุดเริ่มเรื่อง! ถ้าใครชอบหนังสงครามแบบสู้แบบแทงดาบฟาดฟันต่อตัวก็ไม่ผิดหวัง แล้วอัศวินบนหลังม้าก็เท่มาก ดูเลยน่ะ
5. Spartacus: สปาตาคัส ขุนศึกชาติทมิฬ
อีกหนึ่งซีรีส์เล่าเรื่องของ สปาร์ตาคัส (Spartacus) ผู้ซึ่งเป็นนักรบกลาดิเอเตอร์ เราจะได้จุดเริ่มต้นและชีวติของสาปาร์ตัส นักรบที่นำการก่อกบฏต่อชาวโรมัน จนกลายเป็นทาส แม้เราจะเคยรู้จักเรื่องราวของสปาตาคัสมาบ้างแล้ว
ในซีซั่นแรกยังเป็นการปูพื้นเรื่องไปในภาคอื่นที่มันส์สุดๆ แต่หนังก็ได้เล่าเรื่องได้เข้มข้น เล่ห์เหลี่ยม ถึงเนื้อเรื่องจะไม่ซับซ้อนมาก และไม่อลังการเท่าหนังใหญ่ ก็สนุกพอตัวกับฉากแอกชั่นต่อสู้ โหด เลือดสาด แล้วเราจะลุ้นว่า
Spartacus จะก้าวมาเป็นนักรบได้อย่างไร และการเอาชีวิตรอดจากความตาย ป่าเเถื่อน อีกประเด็นเราจะได้เห็นความรุ่งเรื่องของโรมในฉากเปิดเผยเนื้อหนังกันสุดๆ ทั้งเปิดบนและล่าง เหมาะเป็นหนังผู้ใหญ่ 18+ แต่ก็ยกให้เป็นซีรีส์เก่าน้ำดี (ค.ศ. 2010-2013)
ซีรี่ย์สงคราม Netflix ทั้ง 5 เรื่องที่เป็นซีรี่ย์สงคราม ย้อนยุค และมีหนังประวัติศาสตร์ Netflix ที่มีเนื้อหายาวจึงมีการปูเรื่องในช่วงตอนภาคแรกๆ หรือตอนแรกๆ ทำให้บางคนรู้สึกว่าขี้เกียจตาม แต่ขอบอกเลยว่า แต่ละตอนมีการชิงศึก หักมุม กันน่าดู และสนุกทั้ง 5 เรื่องนี้แน่นอน
ขอบคุณรูปภาพจาก www.imdb.com
แนะนำบทความที่น่าสนใจ
5 อิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเรื่อง Elizabeth (1998) – เทียบ Timeline ครบทุกตอน
รวบ 5 หนังประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ Elizabeth (1998)
แนะนำหนังผีและหนังสยองขวัญ (Horror) ในหนัง Netflix ปี 2020
หนังรักสุดซาบซึ้ง แสนจะโรแมนติก ในหนัง Netflix