รีสตาร์ท มือถือ เป็นเรื่องจำเป็นไหม? คุณรีสตาร์ทบ่อยแค่ไหน เรื่องธรรมดาที่หลายคนมองข้าม หรือสงสัยเกี่ยวกับการรีสตาร์ทมือถือ คราวนี้เรามาเครียร์ข้อสงสัยกัน
การ รีสตาร์ท มือถือ ดีอย่างไร
การรีสตาร์ตเครื่องมือถือจะช่วยแก้ปัญหาหลายๆ อย่าง เช่น มือถือช้าอืด แอพค้าง ติดบั๊ก เป็นต้น
เพราะว่าเมื่อปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่จะเป็นการล้างระบบต่างๆ ที่ทำงานค้างไว้ เพื่อปิดการทำงานทั้งหมดของแอพและระบบปฏิบัติการ แล้วเปิดขึ้นมาใหม่ รวมทั้งเป็นการเคลียร์ Cache ในมือถือ
การรีสตาร์ทจะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่?
ทั้งนี้หลายคนเข้าใจว่าถ้ารีสตาร์ท มือถือบ่อยจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่เกี่ยวกันเลย เพราะว่าอายุของแบตเตอรี่ iPhone จะขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งาน และจำนวนรอบที่ชาร์จ แต่สิ่งที่ทำร้ายแบตเตอรี่ของคุณได้ คือ การรีบชาร์จแบตเตอรี่เร็วเกินไปต่างหาก
การรีสตาร์ท iPhone บ่อยแค่ไหน ?
ไม่มีข้อกำหนดตายตัวว่าต้องรีสตาร์ตบ่อยแค่ไหน แต่ก็มีข้อแนะนำให้ทำสัปดาห์ละครั้ง ด้วยการปิดเครื่องปล่อยให้เครื่องพักอย่างน้อยหนึ่งนาทีจากนั้นคุณสามารถเริ่มการทำงานได้
สาเหตุหลายประการที่คุณควรรีสตาร์ทโทรศัพท์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ได้แก่ การรักษาความจำ, ป้องกันแคช, ให้เครื่องทำงานได้ราบรื่น และยืดอายุแบตเตอรี่
ประโยชน์อื่นๆ
- แบตเตอรี่หมด
- ปัญหาการโทร
- ความร้อน
- สัญญาณต่ำหรือไม่มีเลย
- ปัญหาหน่วยความจำเหลือน้อย (บังคับปิดข้อผิดพลาดหน่วยความจำขัดข้องค้าง)
- ปัญหาการส่งข้อความ
- ข้อมูลช้า
- การเชื่อมต่อการโทรด้วย Wifi
แน่นอนว่าเราชอบที่มีมือถือติดตัวด้วยตลอดเวลา ทำให้เปิดการใช้งานตลอดเวลาแบบไม่รู้ตัว แม้ว่าจะปิดแอพบางตัวไปแล้ว แต่โปรแกรมบางตัวก็ยังทำงานอยู่นั้นเอง ดังนั้นควรทำการ รีสตาร์ท มือถือ
ทำไม iPhone แต่ละรุ่น มีการรีสตาร์ทต่างกัน
เริ่มตั้งแต่ iPhone X เป็นต้นไป Apple ได้กำหนดฟังก์ชันใหม่ให้กับปุ่มด้านข้างที่ด้านข้างของอุปกรณ์ ปุ่มนั้นสามารถใช้เพื่อเปิดใช้งาน Siri เรียกใช้คุณสมบัติ SOS ฉุกเฉิน หรืองานอื่นๆ ได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนี้ กระบวนการรีสตาร์ทจึงแตกต่างจากวิธีที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้า
วิธีรีสตาร์ท iPhone รีเซ็ตไอโฟน ทำอย่างไร
– การรีสตาร์ท iPhone X, iPhone 11 และ iPhone 12
บทความน่าสนใจ
- 8 วิธีตั้งค่า Facebook ไม่ให้กินแบตมือถือ (ใหม่ล่าสุด)
- 10 สาเหตุ ไอโฟนเครื่องร้อน ป้องกันไม่ให้เครื่องระเบิด