Home คู่มือ iPhone อุปกรณ์เสริมที่ควรซื้อพร้อมกับ iPhone 12 ตัวใหม่

อุปกรณ์เสริมที่ควรซื้อพร้อมกับ iPhone 12 ตัวใหม่

ใครที่กำลังวางแผนซื้อ iPhone 12 ไม่ว่าจะรุ่นไหนขนาดไหน การสั่งซื้อเพียงเครื่องที่แถมเพียงสายชาร์จมา อาจจะยังไม่ครบในการใช้งาน ซึ่งวันนี้ GoodTipIT จะมาแนะนำคร่าวๆ ว่ามีอุปกรณ์เสริมไหนที่เราน่าจะต้องซื้อติดมากับเครื่องเลยเวลาสั่งซื้อบ้าง เผื่อเวลาได้เครื่องมาจะได้ใช้งานครบจบในการซื้อครั้งเดียว และมีราคาคร่าวๆ มาให้เพื่อนได้คำนวณด้วยว่าต้องมีงบเท่าไหร่กันในการซื้อไอโฟนเครื่องใหม่นี้

AppleCare+ ราคา 6,200 บาท

อนาคตเราไม่รู้ว่าไอโฟนของเราจะตกน้ำตกพื้นหน้าจอแตกเครื่องพักขนาดไหน แต่ถ้าซื้อ Apple Care+ ติดเครื่องไว้ก็จะได้อุ่นใจมากขึ้นเวลาเครื่องเกิดอุบัติเหตุจะได้เข้าศูนย์แก้ไขได้อย่างสบายใจ และจ่ายค่าซ่อมที่น้อยลง ในระยะเวลาสองปี ใครยังไม่รู้ว่า AppleCare+ คืออะไรเข้าไปดูเลย

 

20W USB-C Power Adapter ราคา 690.00 บาท

อะแดปเตอร์ 20 W ตัวนี้ควรซื้อไว้เลย เพราะถ้าใครที่ใช้อะแดปเตอร์ไอโฟนรุ่นเก่าอยู่หัวเสียบจะเป็น USB หัวใหญ่ไม่สามารถเสียบสาย USB-C to Lightning Cable ที่เป็นหัวเล็กที่แถมมากับ iPhone 12 ได้

และถ้าใครใช้มือถือไอโฟนรุ่นใหม่หน่อยหัวชาร์จอะแดปเตอร์จะเป็นช่อง USB-C แล้วก็สามารถเสียบกับสาย USB-C to Lightning Cable ได้ แต่กำลังไฟจะน้อยกว่าหน่อย เพราะอะแดปเตอร์รุ่นก่อนหน้านี้จะเป็น 18 w อยู่

 

 

MagSafe Charger ราคา $39 หรือประมาณ 1,416 บาท

ส่วนใครที่ไม่ชอบการหาสายไฟเสียชาร์จแบตมือถือ แต่ชอบการแปะเครื่องกับที่ชาร์จก็ต้องซื้อตัวชาร์จแม่เหล็กตัวนี้เลย ที่มากับไฟ 15 w แต่อย่าลืม MagSafe Charger นั้นมาแต่แทนชาร์จกับสายเท่านั้นอะแดปเตอร์คุณก็ต้องซื้อเอง แต่ถ้ามีอะแดปเตอร์อันเก่าที่เป็นหัว USB-C ก็ไม่ต้องซื้อก็ได้จ๊ะ

 

iPhone 12 | 12 Pro Case with MagSafe ราคา $49 หรือประมาณ 1,779 บาท

และถ้าซื้อที่ชาร์จแม่เหล็กมาแล้วก็ต้องมีเคส MagSafe ด้วยซึ่งราคาจะแพงกว่าที่ชาร์จเสียอีก แต่ก็สะดวกเพราะตัวเคสจะมีแทบที่เมื่อวางตัวเครื่องไปใกล้ที่ชาร์จก็จะดูดติดมาทันทีเป็นอะไรที่สะดวกมาก และตัวเคสมีให้เลือกทั้งแบบใสมองเห็นตัวสีไอโฟน 12 และแบบ Silicone ที่มีให้เลือกหลากสีแล้วแต่คุณชอบ

 

iPhone Leather Wallet with MagSafe ราคา $59 หรือประมาณ 2,142 บาท

จากเคส MagSafe มาแล้วก็ต้องไปต่อที่แผ่นแม่เหล็ก Leather Wallet ที่สามารถแปะติดด้านหลังเคสด้วยพลังแม่เหล็กเอาไว้เก็บบัตรต่างๆ อย่างบัตร ATM, บัตรจอดรถ, บัตรประชาชน ฯลฯ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ แถมแพงไปหน่อยถ้าคิดถึงประโยชน์การใช้งานแล้ว

 

อะแดปเตอร์ Lightning เป็นช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม ราคา 390 บาท

สำหรับใครที่ยังใส่หูฟังมีสายก็ต้องพกอะแดปเตอร์เอาไว้เสียบสายหูฟังเข้าไอโฟน 12 ด้วยแต่ถ้ายังมีอันเก่าอยู่ตัวนี้ก็ตัดทิ้งไปได้เลย

 

หูฟังไร้สาย ราคาตั้งแต่ 1,900 ถึง 12,500  บาท 

ใครชอบหูฟังแบบไม่มีสายก็มีให้เลือกหลายราคาเลยตั้งแต่หูฟังไร้สาย Beats Flex แบบสายระหว่างหูสองข้างเริ่มด้วยราคาเบาๆ ที่ 1,900 บาท หรือแพงสุดก็จะเป็น เฮดโฟน Beats Studio3 Wireless ราคาอยู่ที่ 12,500 บาท ส่วนใครเป็นสาวก Apple ก็จะมีหูฟังไรสาย AirPods Pro ในราคา 9,490 บาท และรุ่นเล็ก AirPods พร้อมเคสชาร์จ ราคาอยู่ที่ 5,990 บาท ใครยังไม่มีหูฟังก็ลองเลือกไปซักตัวจะได้มีไว้ฟังคู่ iPhone 12

 

สาย Lightning เป็น USB ราคา 690 บาท

หลายคนคงสงสัยว่าอ้าววว ก็ซื้อ iPhone 12 มาแล้วเขาก็แถมสาย USB‑C เป็น Lightning มาในกล่อง แล้วจะซื้อสายแบบเก่ามาด้วยทำไมกันเหล่า? ซึ่งสำหรับใครที่ใช้มือถือแอนดรอยด์ จะเปลี่ยนมาใช้ iPhone 12 ก็อาจจะต้องซื้อสายนี้เพิ่มอีกเส้น ด้วยเวลาเราจะต่อไอโฟนเข้ากับคอมพิวเตอร์ช่องเสียบ USB-C บนคอมเรานั้นจะไม่มีให้เสียบนั้นเอง

สำหรับคนที่ไม่มีสาย Lightning เป็น USB ก็อาจจะต้องซื้อติดมาด้วยไม่งั้นเอารูปเอาวีดีโอจากมือถือย้ายลงคอมผ่านสายจะทำไม่ได้นะจ๊ะ  หรือไม่อีกวิธีก็คือซื้อ HUB Adapter ที่มีช่องให้เสียสาย USB-C ด้วย จะได้ใช้สายที่แถมมากับ iPhone 12 เสียบโอนถ่ายข้อมูลกับคอมได้

Exit mobile version